สายพานเฟร็กซิเบิ้ลเชน (Flexible Chains) คืออะไร? และทำงานอย่างไร?

สายพานเฟร็กซิเบิ้ลเชน (Flexible Chains) คืออะไร? และทำงานอย่างไร?

สายพานลำเลียงแบบ Flexible Chains เป็นส่วนสำคัญของหลายอุตสาหกรรม ช่วยให้การขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายและคลังสินค้า ระบบโซ่ลำเลียงแบบ Flexible Chains ได้รับการออกแบบให้มีความทนทานทำให้สามารถบำรุงรักษาได้ง่ายและสามารถปรับระบบเปลี่ยนแปลงไลน์การผลิตได้อย่างรวดเร็วสำหรับสินค้าหรืองานต่างๆ มีความยืดหยุ่นทั้งในด้านขนาด รูปร่าง ความเร็ว และทิศทาง ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจจำนวนมาก ยี่ห้อที่นิยมทั่วโลกมีอยู่มากอาทิเช่น FlexLink Systems , FlexMove , Modu system

  1. อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, กระป๋องโลหะและกระดาษ, ลูกอม, นมผง, อาหารสัตว์, ขนมขบเคี้ยว, หมากฝรั่ง, อาหารแช่แข็ง, โยเกิร์ต, น้ำผลไม้ แก้ว, และขวด PET
  2. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเครื่องจักร ไส้กรองอากาศและน้ำมัน, ล้อเกียร์, ตลับลูกปืน ,ลูกสูบ
  3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์, หลอดไฟ, อุปกรณ์ไฟฟ้า, CRT, ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
  4. อุตสาหกรรมของใช้ส่วนตัว, ของใช้ในครัวเรือน, แชมพู, ครีมอาบน้ำ,สบู่, น้ำหอม, ผลิตภัณฑ์ดูแลดวงตา, โลชั่นบำรุงผิว, เครื่องมือผ่าตัด, ผงซักฟอก, อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ, เครื่องสำอาง,
  5. อุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรม อุปกรณ์ทันตกรรม

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนนำสายพานแบบ flexible chains มาออกแบบเพื่อใช้งาน

  1. น้ำหนักของสินค้าไม่ควรเกิน 30 กิโลกรัมต่อชิ้น
  2. ความเร็วสูงสุดของสายพานไม่เกิน 60 เมตรต่อนาที
  3. ขนาดที่กว้างสุดของสายพานไม่ควรเกิน 400 mm.
  4. สภาพสิ่งแวดล้อมอุณหภูมิปกติ -20 ถึง 60 องศาเซลเซียส
  5. สภาพของความสะอาดและการทนกรดและด่างปกติตามตารางพลาสติก POM (Polyoxymethylene)

ภาพคือสายพานลำเลียง แบบพลาสติกเฟร็กซิเบิ้ลเชน (Flexible Chains)เป็นสายพานที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน เพราะสามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นมากประกอบติดตั้งง่าย โครงสร้างขึ้นรูปสำเร็จไว้ทั้งหมดติดตั้งได้รวดเร็ว

สายพานลำเลียงแบบ Flexible Chains Conveyor กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตอย่างไร ประกอบ ถอดประกอบ กำหนดค่าใหม่ และจัดวางใหม่ได้อย่างง่ายดาย

  1. สามารถจัดไลน์การผลิตได้หลากหมายโดยง่ายเพราะคานลำเลียงมีรูปทรงมาตรฐาน
  2. สายพานออกแบบสำหรับการลำเลียงหลากหลายฟังก์ชั่น
  3. ออกแบบเรียบง่าย สวยงาม คล่องตัวในการเคลื่อนไหว
  4. การออกแบบโมดูลเป็นชิ้นส่วนและปรับเปลี่ยนง่าย
  5. ระบบคุ้มราคา ปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลง
  6. การเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบขั้นต่ำและการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  7. ความสามารถในการเคลื่อนที่ในแนวนอนและแนวตั้ง
  8. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  9. การออกแบบที่สวยงาม สะอาด หล่อลื่นตัวเอง เสียงต่ำ แรงเสียดทานต่ำ
  10. บำรุงรักษาน้อย ปราศจากการกัดกร่อน และน้ำหนักเบา

ประเภทต่างๆ ของFlexible Chains

  • Flexible Chains (สายพานลำเลียงแบบ Flexible Chains) สายพานเป็นวัสดุพลาสติก (POM)

วิธีออกแบบสายพานลำเลียงแบบ Flexible Chains ที่เหมาะสมเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน

  1. ขนาดสินค้า สินค้าสามารถกว้างกว่าสายพานลำเลียงได้ เพราะมีไกด์นำทางบังคับไม่ให้ตกจากสายพาน
  2. น้ำหนักสินค้า น้ำหนักของผลิตภัณฑ์มีความสำคัญในการเลือกสายพาน เนื่องจากสายพานแต่ละเส้นมีแรงดึงสูงสุด แตกต่างเหมือนกัน จำเป็นต้องมีการคำนวณแรงดึงเมื่อมีการลำเลียงสินค้า ถ้าสินค้ามีน้ำหนักมาก แรงดึงจะต้องเพิ่มขึ้น
  3. รูปแบบสายพานลำเลียง รูปแบบการใช้งานสายพานลำเลียงส่วนใหญ่
    มีอยู่ในสายพานลำเลียงแบบ Flexible Chains ทุกรุ่น อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างเกี่ยวกับประเภทสายพาน เช่น สายพานแบบเรียบ สายพานธรรมดาผิวเรียบ, สายพานบนเป็นยาง, สายพานแบบวิ่งทางโค้ง , สายพานแบบป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ , สายพานโค้งแบบมีแบริ่ง , สายพานเป็นยางหนีบ ,สายพานบนเป็นลูกกลิ้ง, ชุดขับเคลื่อน เป็นตัวแปร การเลือกประเภทของมอเตอร์มีความสำคัญเนื่องจากมอเตอร์ต่างๆ มีแรงฉุดที่แตกต่างกัน
  4. การคำนวณทางเทคนิค สิ่งสำคัญคือต้องคำนวณน้ำหนักทั้งหมดบน
    สายพานลำเลียงโดยพิจารณาจากน้ำหนักสินค้า ระยะห่างระหว่างสินค้าระยะสะสม ของสินค้า และความยาวของสายพานลำเลียงของระบบ ความถี่ในการเริ่ม/หยุด ความตึงของสายพาน
  5. มีพื้นที่ใช้สอย การพิจารณาพื้นที่ว่างที่มีอยู่และการใช้ประโยชน์สูงสุดสำหรับการจัดวางสายพานลำเลียง
  6. ความเข้ากันได้กับเครื่องจักรระบบอื่นๆ ในการใช้งานบางอย่างการเชื่อมต่อ และการประกอบเข้ากับอุปกรณ์อัตโนมัติอื่นๆ สามารถทำได้ง่ายกว่า